เทคนิคการเล่นไวโอลินขั้นพื้นฐาน โปรแกรมการสอนไวโอลินประกอบภาพ
เหมาะสำหรับนักไวโอลินมือใหม่ซึ่งจะได้ประโยชน์จากบทเรียนมากกว่า
ด้วยเนื้อหาที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาตนเอง ข้อมูลนี้จะช่วยให้เด็กๆ
ฝึกฝนเเละเรียนรู้ประสบการณ์อย่างสนุกสนานและได้ประโยชน์มากกว่า
การดูแลรักษาเครื่องดนตรี
การจับคันชัก ควรจะจับคันชักใกล้ๆ Frog
คุณสามารถจับด้ามคันชักตรงส่วนไหนก็ได้นับจากกึ่งกลางจนถึงโคนคันชัก
(ตามวงกลมในภาพ) แต่อย่าให้มือสัมผัสกับหางม้า
อย่าปรับหางม้าจนตึงเกินไป ด้ามคันชักควรจะเว้าเข้าหาหางม้าเล็กน้อย
และอย่าปล่อยทิ้งคันชักไว้ห่างตัว ผ่อนหางม้าทุกครั้งก่อนเก็บเข้ากล่อง
- การจับไวโอลินให้จับที่ลำตัวแต่อย่าจับที่คอ
พยายามหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับลูกบิดและสายเพราะอาจทำให้เสียงเพี้ยนได้
-
เก็บไวโอลินและกล่องไม่ให้ถูกแสงเเดดหรือเครื่องทำความร้อน
เพราะจะทำให้วานิชปะทุเป็นฟองได้
และอาจทำให้ไม้ได้รับความเสียหายหรือปริออกจากกันเนื่องจากมีกาวเป็นตัวยึดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
-
เมื่อไม่ใช้ไวโอลินให้เก็บไว้ในที่ปลอดภัยและเเสงเเดดเข้าไม่ถึงตลอดวัน
และเก็บไว้ในที่ที่สมาชิกตัวน้อยในบ้านเอื้อมไม่ถึง
อย่าวางไวโอลินไว้ในรถเป็นอันขาด
- ข้อสุดท้ายก็คือ
เจ้าของควรเป็นคนที่ใช้ไวโอลินเพียงคนเดียว
โดยเฉพาะการป้องกันไม่ให้คนที่ไม่รู้วิธีจับไวโอลินตัวเก่งของคุณ
ใช้มือซ้ายจับกลางคันชักกึ่งกลางคันชักแบบเดียวกับการจับคันชักในขณะเล่นจริง
พยายามอย่าให้มือสัมผัสกับหางม้า
กำมือขวาหลวมๆ ตรวจดูให้แน่ใจว่านิ้วโป้งโค้งเข้าเเละอยู่สูงกว่านิ้วอื่นๆ
การจับคันชักในท่านี้ คุณไม่สามารถมองเห็นได้ว่ามือ นิ้ว และนิ้วโป้งวางอยู่อย่างไร
ให้พลิกคันชักในแนวดิ่ง เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการฝึกในบทต่อๆ ไป
ซึ่งจะทำให้คุณเห็นตำแหน่งของนิ้วและมือได้ดีกว่าและสามารถแก้ไขให้ถูกต้องได้ง่าย
ยกคันชักให้สูงขึ้นเล็กน้อยจะทำให้คุณมองเห็นได้ถนัดกว่า
แต่พยายามให้คันชักอยู่ในแนวตรงเสมอ
นิ้วก้อยควรจะโค้งเล็กน้อย และวางอยู่ด้านบนคันชักเหนือปลาย Frog
ให้สังเกตตำแหน่งของนิ้วอื่นๆ ที่วางอยู่บน Frog
และระยะห่างของนิ้วที่วางอยู่บนคันชักด้วย
ให้นิ้วโป้งวางอยู่อีกด้านหนึ่งของคันชัก
พยายามให้นิ้วโป้งโค้งและสัมผัสกับด้านล่างของด้ามคันชักเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น
สรุปก็คือให้นิ้วอื่นๆ วางอยู่ด้านหนึ่งและนิ้วโป้งวางอยู่อีกด้านหนึ่ง
ยกคันชักให้ตั้งขึ้นและหันเข้าหาตัวคุณ คุณจะเห็นว่าการจับคันชักของมือ นิ้วมือ
และนิ้วโป้งเป็นอย่างไรบ้าง
พยายามให้เเขน นิ้วมือ
และนิ้วโป้งรู้สึกผ่อนคลายไม่เกร็ง
จับคันชักให้อยู่ในแนวดิ่งเพื่อหลีกเลี่ยงเเรงดึงหรือการประคองด้วยมืออีกข้างหนึ่ง
แรงรับจะมาจากสายไวโอลินในขณะที่คุณเล่นเท่านั้น
จากท่าพักสู่ท่าพร้อมเล่น (Rest to Playing Position)
สิ่งที่สำคัญไม่น้อยไปกว่ากันก็คือ
การเปลี่ยนจากท่าพักมาสู่การจับคันชักในท่าพร้อมเล่น
ซึ่งจะดีมากถ้าสามารถทำได้โดยใช้มือเพียงข้างเดียวโดยไม่ต้องวางไวโอลินก่อนในขณะที่คุณกำลังเปลี่ยนท่าจับคันชัก
ให้ปลายคันชักชี้ลงและหมุนข้อมือของคุณให้ขึ้นมาอยู่ด้านบนคันชัก
จับคันชักให้มั่นคงโดยให้นิ้วโป้งที่อยู่บนคันชักเป็นแนวตรง และให้หมุดโลหะ (Screw)
ค้ำอุ้งมือของคุณเหนือโคนนิ้วก้อยตามภาพ
ใช้วิธีการจับแบบนี้เพื่อพลิกปลายคันชักให้ชี้ขึ้น
หลังจากนั้นก็เพียงแต่สลับข้อมือ นิ้วโป้ง
และนิ้วมือให้อยู่ในท่าที่ถูกต้องเท่านั้น ตรวจดูว่าคุณจับคันชักได้ถูกต้องหรือยัง
ในขณะที่คุณกำลังดูข้อมือที่พลิกขึ้นนั้น
อย่าลืมว่าปลายคันชักอีกข้างอาจจะไปจิ้มตาครูหรือเพื่อนๆ ในวงได้
การหนีบไวโอลิน - วางไวโอลินไว้ข้างลำตัว
หลังจากนั้นให้วางคางไว้ใต้คางตามรูปที่ 1 และ 2
-
ท่าทางการจับไวโอลินของคุณควรจะใกล้เคียงกับท่าทางปกติที่ยังไม่มีไวโอลินให้มากที่สุด
ในขณะที่เคลื่อนไหวพยายามให้หลังและไหล่ทั้งสองข้างอยู่ในแนวตรงเสมอ
-
อย่าหนีบไวโอลินด้วยคางเพราะอาจทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยคอได้
โดยเฉพาะเมื่อที่ใช้ที่รองไหล่
- จากภาพจะเห็นองศาการวางไวโอลินที่ถูกต้องจากภาพมุมเหนือศรีษะและไหล่ของนักไวโอลิน
- ไวโอลินควรจะทำมุมครึ่งหนึ่งของมุมหน้าตรงกับด้านซ้ายของลำตัว
- ใช้มือซ้ายจับที่ด้านบนไวโอลินเพื่อรักษาท่าทางที่ถูกต้อง
ซึ่งเป็นตำเเหน่งในการเล่นไวโอลิน
-
จุดที่ผิดกันมากก็คือการบิดไหล่มาข้างหน้าเพื่อรองรับไวโอลิน
พยายามให้ไหล่ซ้ายอยู่ในตำเเหน่งเดิมตามธรรมชาติ
-
ควรจะรักษาระดับของไวโอลินตลอดความยาวลำตัวให้ขนานกัน ซึ่งจะทำให้ปลายทั้ง 2
ข้างสูงจากพื้นเท่าๆ กัน แต่ด้านซ้ายของไวโอลินควรจะสูงกว่าด้านขวาเล็กน้อย
อย่าวางข้อศอกพิงไว้บนลำตัว ยกไวโอลินให้สูงขึ้น
-
ปลายคางควรจะอยู่ใกล้กับหางปลาและด้านล่างของไวโอลินควรจะสัมผัสกับกระดูกไหปลาร้า
และวางไวโอลินให้ชิดต้นคอของคุณ
- ถ้ากระดูกไหปลาร้าเกิดอาการเจ็บ
คุณอาจจะใช้ผ้ารองได้แต่เช็คดูให้ดีว่าไวโอลินไม่เลื่อนไปมาเพราะว่าคุณใช้ผ้ารองมากเกินไป
วิธีนี้จะทำให้ควบคุมไวโอลินได้ยากและเกิดปัญหามากขึ้น
-
ความรู้สึกผ่อนคลายและไม่เกร็งกุญแจสำคัญคือ
จับไวโอลินด้วยมือซ้ายและวางไวโอลินให้ชิดต้นคออย่างนุ่มนวล
-
จากภาพด้านล่างแสดงให้เห็นว่าไวโอลินด้่านหนึ่งสูงกว่าอีกด้านหนึ่ง ถ้าไวโอลินทั้ง
2 ด้านอยู่ในระนาบเดียวกัน จะทำให้คุณต้องยกมือขวาให้สูงมากๆ
เพื่อลากคันชักซึ่งจะทำได้ยากกว่าและไม่ค่อยถนัดนัก
-
จับไวโอลินตามแบบในภาพบน ใช้มือซ้ายจับบนลำตัวไวโอลิน แต่ยังไม่จับส่วนคอ
แหล่งอ้างอิง
http://www.pantown.com/board.php?id=13220&name=board9&topic=10&action=view